คะน้า ( CHINESE BLOCCOLI , CHINESE KALE ) เป็นผักที่มีต้นกำเนิดในแถบทวีปเอเชีย ได้มีการเพาะปลูกมากในประเทศจีน ฮ่องกง รวมถึงในประเทศไทยด้วย เป็นผักปลูกง่าย ปลูกทานได้ตลอดปี และมีราคาไม่แพง จึงไม่แปลกที่มักจะมีการนำไปประยุกต์ทำเป็นเมนูต่าง ๆ มากมาย ทั้งตามโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร และร้านอาหารทั่วไปก็ล้วนแต่มีเมนูที่มีผักชนิดนี้เป็นส่วนประกอบอยู่ด้วย
ถ้าหากนึกไม่ออกว่าจะทำเมนูอะไรดี วันนี้เรามีเมนูอาหารอร่อย ๆ ที่มีผักชนิดนี้เป็นส่วนประกอบอยู่ด้วยมาฝากคุณแม่บ้านด้วยล่ะ ว่าแล้วก็เข้าครัวโชว์สกิลขั้นเทพของเรากันเลย
เมนูข้าวผัด คะน้า หมูไข่เจียว เมนูเดียวอิ่มอร่อยกันทั้งบ้าน

คะน้าจัดเป็นผักพื้นบ้านที่มีอยู่คู่สังคมไทยมาช้านานตั้งแต่ในสมัยโบราณ คะน้าชื่อวิทยาศาสตร์ว่า BRASSICA OLERACEA L. CV. ALBOGLABEA GROUP สามารถแบ่งออกได้หลายชนิด เช่น คะน้าไทย , คะน้าฮ่องกง , คะน้าเม็กซิโก ฯลฯ เป็นผักที่ไม่ว่าจะนำไปทำอะไรก็อร่อย ตามร้านอาหารทั่วไปเรามักจะเห็นว่ามีเมนูต่าง ๆ ให้เลือกทาน เช่น คะน้าหมูกรอบ , คะน้าปลาเค็ม , คะน้าหมูสามชั้น ฯลฯ
เราขอเอาอกเอาใจคนชอบทานผักกันสักหน่อยกับเมนูข้าวผัดคะน้าหมูไข่เจียว เมนูอร่อยที่มากด้วยประโยชน์แถมขั้นตอนการทำก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด ถ้าพร้อมแล้วก็เริ่มกันเลยค่ะ
วัตถุดิบและส่วนผสมที่ต้องเตรียม
-ข้าวสวย 2 ทัพพี
-หมูหั่นชิ้น 10 ชิ้น
-ไข่ไก่ 1 ฟอง
–ผักคะน้า 2 ต้น
-กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
-พริกขี้หนูซอย 3 เม็ด
-ซอสข้นปรุงรสคนอร์ 0.5 ช้อนโต๊ะ
-น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
-น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำ

1.นำเอาคะน้ามาปอกเปลือกส่วนที่เป็นก้าน ล้างให้สะอาดแล้วนำมาหั่นเป็นท่อน ๆ ขนาดพอดีคำ เตรียมไว้
2.นำกระทะขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟปานกลาง เมื่อกระทะเริ่มร้อนให้ใส่น้ำมันลงไปแล้วรอจนน้ำมันร้อน
3.เมื่อน้ำมันเริ่มร้อนใส่กระเทียมสับลงไปเจียวให้มีกลิ่นหอมจากนั้นนำหมูหั่นชิ้น คะน้าหั่น พริกซอย ลงผัดในกระทะ
4.ใส่ข้าวสวยลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลและซอสปรุงรส ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากัน เมื่อปรุงจนได้รสชาติอร่อยตามต้องการแล้ว ผัดต่ออีกเล็กน้อยจนวัตถุดิบต่าง ๆ สุกดีแล้วจึงปิดไฟ
5.ตักข้าวผัดใส่จานพร้อมทานได้เลยค่ะ
ประโยชน์ดี ๆ ที่มีในเมนูนี้
ผักคะน้าเป็นผักปลูกง่าย หาซื้อง่าย มีจำหน่ายตลอดปี ราคาไม่แพง ที่สำคัญนำไปทำได้หลากหลายเมนู ซึ่งในแต่ละเมนูก็เป็นเมนูง่าย ๆ ใช้วัตถุดิบไม่เยอะ
เมนูข้าวผัดคะน้าหมูไข่เจียวมีวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายหลากหลายชนิด เช่น บีตา-แคโรทีน , วิตามิน , แคลเซียม , วิตามินเอ วิตามิน B , วิตามินB-12 , วิตามินดี , ไอโอดีน , โฟเลต , โอเมก้า-3 ฯลฯ
โดยสารอาหารเหล่านี้มีประโยชน์สามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด ฯลฯ อีกทั้งยังช่วยสร้างเซลล์เนื้อเยื่อใหม่ ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย และช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง ฯลฯ