สูตรทำ ลาบปลาทูน่า เมนูอาหารรสชาติจัดจ้าน เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ
ลาบปลาทูน่า เป็นเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมมาจากเทรนด์รักสุขภาพที่มาแรงเป็นอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งเป็นเมนูที่ผสมผสานความเป็นไทยเข้ากับวัตถุดิบจากต่างประเทศได้เป็นอย่างดี โดยเมนูนี้จะปรุงรสออกมาได้จัดจ้านผสมผสานกับส่วนผสมในการทำที่ง่ายดายเป็นอย่างมากเลยทีเดียวอีกทั้งยังเป็นเมนูเพื่อสุขภาพที่มีโภชนาการและสารอาหารอย่างครบถ้วนอีกด้วย
แนะนำส่วนผสมและวิธีการทำลาบปลาทูน่า เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ
หลายๆท่านต้องอยากจะทราบสูตรและวิธีการทำ ลาบปลาทูน่า กันอย่างแน่นอน โดยเป็นเมนูสำหรับผู้ที่รักสุขภาพต้องห้ามพลาดเลยเพราะอุดมไปด้วยคุณประโยชน์หลากหลายอีกทั้งกรรมวิธีการทำก็ไม่ยากเพียงแค่ปรุงรสตามสูตรและวัตถุดิบที่เราเตรียมมาฝากก็จะได้เมนู ลาบปลาทูน่ากระป๋อง รสชาติกลมกล่อมกันแล้ว
ส่วนผสมในการทำลาบปลาทูน่า tuna
- ทูน่ากระป๋อง 1 กระป๋อง
- หอมแดงไซส์เล็กจำนวน 7 หัว
- พริกป่นทั้งหมด 2 ช้อนชา (หรือตามระดับความเผ็ดที่ชอบ)
- น้ำปลาทั้งหมด 2 ช้อนชา (ถ้าหากอยากทำ ลาบปลาทูน่า คลีน ให้ใช้น้ำปลาโซเดียมต่ำ)
- ใบสะระแหน่ (เพื่อใช้สำหรับตกแต่งจาน)
- ผักชีฝรั่งซอยทั้งหมด 2 ช้อนโต๊ะ
- ข้าวคั่วทั้งหมด 2 ช้อนชา
- น้ำมะนาวสด 2 ช้อนโต๊ะ
- ต้นหอมซอยทั้งหมด 1 ช้อนโต๊ะ
ลาบปลาทูน่า วิธีทำ
- เริ่มต้นจากการเตรียมทูน่าสำหรับการทำเมนูทูน่าโดยการนำทูน่ากระป๋องออกมาบีบน้ำออกให้หมดและจัดการทำให้เป็นชิ้นเล็กๆหลังจากนั้นให้พักเอาไว้ก่อน
- เตรียมหอมแดงหั่นเป็นชิ้นเอาไว้และซอยผักชีฝรั่งกับต้นหอมพร้อมกับเด็ดใบสะระแหน่มาใส่ถ้วย
- นำเครื่องปรุงที่เตรียมส่วนผสมเอาไว้มาคลุกเคล้าให้เข้ากัน หลังจากนั้นนำผักที่หั่นใส่ถ้วนเอาไว้มาผสมใส่จานที่มีทูน่าเตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้
- ตักลาบทูน่าที่ทำเสร็จเรียบร้อยใส่จาน นำใบสะระแหน่มาตกแต่งให้สวยงามเท่านี้ก็พร้อมรับประทานแล้ว
ล้วงลึกลาบปลาทูน่า คุณค่าทางโภชนาการ
หลายๆท่านอาจเคยได้ยินกันมาแล้วว่าเมนู ลาบปลาทูน่า เป็นเมนูเพื่อสุขภาพแต่ก็คงยังมีคำถามกันหลายๆอย่างว่ามีประโยชน์อย่างไร และ ลาบทูน่า กี่แคล ซึ่งเราก็ได้รวบรวมคำตอบมาฝากทุกท่าน โดยเมนูนี้จะให้พลังงานทั้งหมด 210 กิโลแคลอรี่ โดยการนำทูน่าไปทำลาบหรือ เมนูทูน่าสด จะให้โปรตีนและสารอาหารเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีวิตามินบีซึ่งมีส่วนในการช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับผิวได้อีกด้วย
สำหรับ ลาบปลาทูน่า ใครที่กำลังลดน้ำหนักสามารถไปลองทำรับประทานกันดูได้ โดยเป็นเมนูที่มีทั้งรสชาติเผ็ดจัดจ้านผสมกับรสเปรี้ยวที่ผสมผสานออกมาได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นเมนูที่ทำได้ไม่ยากต่อให้เป็นผู้ที่ทำอาหารไม่เป็นก็สามารถทำตามวิธีที่เราแนะนำได้อย่างแน่นอน
